อัปเดตข่าวดี!ล่าสุดแบงค์พาณิชย์ ลดอัตราดอกเบี้ย MRR (ลูกค้ารายย่อยชั้นดี) 0.25% สำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคลและ SME เป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ย
ดอกเบี้ยบ้าน เรื่องสำคัญที่คนซื้อบ้านจำเป็นต้องรู้และต้องทำความเข้าใจ โดยธนาคารแห่งประเทศได้ให้คำจำกัดความของ“ดอกเบี้ยบ้าน”หมายถึง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม คอนโด อาคารพาณิชย์ หรือแม้แต่ที่ดินโดยส่วนใหญ่จะใช้วิธีการคิดคำนวณแบบลอยตัวหรือ Floating Rate แต่เนื่องด้วยสภาพเศรษฐกิจ จึงทำให้มีการกำหนดรูปแบบสินเชื่อให้เอื้อต่อความสามารถทางการเงินของผู้กู้ จึงใช้วิธีการคำนวณในแบบรูปแบบคงที่หรือ Fixed Rate มากขึ้น โดยมักอ้างอิงจากอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำที่สถานบันการเงินใช้วิธีคิดคำนวณให้ผู้กู้ ซึ่งได้แก่MLR MRR MOR
โดยปกติในทุกๆ เดือนธนาคารแห่งประเทศไทยจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อที่อยู่อาศัยของแต่ละธนาคารไม่ว่าจะเป็น MLR MRR หรือ MOR เพื่อให้แต่ละธนาคารนำไปคิดคำนวณอัตราดอกเบี้ยในแต่ละรูปแบบสินเชื่อ ซึ่งสำหรับเดือนตุลาคม 2567 พบว่ามี 7 ธนาคารชั้นนำที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี อยู่ในระดับต่ำ ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารออมสิน ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเอื้อต่อความสามารถทางการเงินต่อผู้กู้ ตามสถานภาพทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ทั้งนี้หากเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยระหว่างเดือนกันยายน 2567 และเดือนตุลาคม 2567 พบว่า สินเชื่อบ้านที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีต่ำสุด คือ สินเชื่อบ้านล้านหลังระยะที่ 3 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5 ปี อยู่ที่ 3.00% ทั้งนี้ได้รับความสนใจกลุ่มผู้ซื้อที่มองหาบ้านที่กำลังสร้างครอบครัว และผู้สูงอายุ พร้อมให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 2,000,000 บาท / ราย / หลักประกัน สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้พร้อมอนุมัติและจัดทำนิติกรรมสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568
ข้อเสนอสุดพิเศษ!!! สำหรับลูกค้าแสนสิริที่สนใจโครงการบ้านทาวน์โฮมคอนโดยังได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษกว่าใคร อาทิ ธนาคารออมสิน กับอัตราดอกเบี้ยต่ำ เฉลี่ย 3 ปี เพียง 3.075% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
ธนาคาร | อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี* | MRR | วงเงินกู้สูงสุด | ระยะเวลากู้ (ปี) |
---|---|---|---|---|
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) | 3.00% | 6.545% | 2 ล้านบาท | 40 |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | 5.03% | 7.40% | 100% | 30 |
ธนาคารกรุงไทย | 3.60% | 7.57% | 100% | 40 |
ธนาคารกรุงเทพ | 3.72% | 7.05% | 100% | 30 |
ธนาคารออมสิน | 4.795% | 6.595% | 110% | 30 |
ธนาคารกสิกรไทย | 3.67% | 7.30% | 100% | 30 |
ธนาคารไทยพาณิชย์ | 3.47% | 7.30% | 100% | 30 |
ที่มา :ธนาคารแห่งประเทศไทย(อ้างอิงข้อมูลวันที่ 11 ตุลาคม 2567)
*** อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด และเป็นการคำนวณค่าเฉลี่ยทางคณิตศาสตร์เท่านั้น***
เปรียบเทียบและคำนวณอัตราดอกเบี้ยบ้านและคอนโด จากธนาคารชั้นนำต่างๆ ได้ด้วยตนเองจาก
“โปรแกรมคำนวณเงินกู้ คำนวณสินเชื่อบ้านเบื้องต้น”
รูปแบบสินเชื่อที่น่าสนใจคือ “สินเชื่อบ้านล้านหลังระยะที่ 3” สามารถยื่นคำขอสินเชื่อตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. 2566 และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2568 (หรือเมื่อธนาคารให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินของโครงการ) และให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 2,000,000 บาท/ราย/หลักประกัน โดยมีระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 40 ปี เหมาะกับกลุ่มผู้กู้ที่มีรายได้น้อย กำลังสร้างครอบครัว และผู้สูงอายุ โดยมีเงินงวดคงที่ 60 งวด (5 ปี)แรก
สินเชื่อบ้าน-คอนโดนี้เหมาะกับ :วงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท
สามารถดูข้อมูลอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้ที่สินเชื่อบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 ธนาคารอาคารสงเคราะห์
รูปแบบสินเชื่อที่น่าสนใจคือ “สินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย” โดยเป็นสินเชื่อที่ให้กลุ่มลูกค้าทั่วไปสามารถกู้ได้ทั้งโครงการบ้านใหม่ และบ้านมือสอง เหมาะกับวงเงินกู้ซื้อบ้าน 5 ล้านบาทขึ้นไป โดยให้กู้ได้สูงสุด 100% ของราคาประเมินสำหรับบ้านใหม่*สามารถผ่อนชำระนานสูงสุดถึง 30 ปี ทั้งนี้ระยะเวลาการผ่อนชำระเมื่อรวมกับอายุผู้กู้แล้ว ต้องไม่เกิน 65 ปี พร้อมรับสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ MRTA / MLTA รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษปีแรก 0.25% เฉพาะในปีที่ 1 จากอัตราดอกเบี้ยทุกทางเลือก
สินเชื่อบ้าน-คอนโดนี้เหมาะกับ :มนุษย์เงินเดือน
สามารถดูข้อมูลอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้ที่สินเชื่อบ้านกรุงศรี
รูปแบบสินเชื่อที่น่าสนใจคือ “สินเชื่อบ้านกรุงไทย” โดยเป็นสินเชื่อสำหรับบ้านใหม่ พร้อมทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ โดยให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน ผู้กู้สามารถผ่อนได้นานสูงสุด 40 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี 3.60% เริ่มต้นปีแรก 1.99% ต่อปี สำหรับราคาซื้อขายและวงเงินกู้มากกว่า 3 ล้านบาท และทำประกันตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
สินเชื่อบ้าน-คอนโดนี้เหมาะกับ :ผู้ที่ต้องการวงเงินกู้ 100% และดอกเบี้ยต่ำในปีแรก
สามารถดูข้อมูลอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้ที่สินเชื่อบ้านกรุงไทย
รูปแบบสินเชื่อที่น่าสนใจคือ “สินเชื่อบ้านสำหรับกลุ่มวิชาชีพเฉพาะ” เป็นสินเชื่อที่ใช้หลักประกันประเภทที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างประเภทที่อยู่อาศัย (บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ทาวน์โฮม, คอนโด, ที่ดินเปล่า/สิทธิการเช่า) โดยให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของมูลค่าหลักประกัน โดยผู้กู้ผ่อนนานสูงสุด 30 ปี (เฉพาะพนักงานประจำ สูงสุด 35 ปี) รวมอายุกับระยะเวลาผ่อนไม่เกิน 65 ปี (เฉพาะอัยการและผู้พิพากษาสูงสุด 70 ปี) และสามารถเลือกผ่อนชำระได้ทั้งแบบขั้นบันได หรือแบบคงที่
สินเชื่อบ้าน-คอนโดนี้เหมาะกับ :แพทย์, เภสัชกร, นักบิน, วิศวกร, ผู้พิพากษาและอัยการ
สามารถดูข้อมูลอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้ที่สินเชื่อบ้านสำหรับกลุ่มวิชาชีพเฉพาะ
รูปแบบสินเชื่อที่น่าสนใจคือ “สินเชื่อเคหะ” เป็นรูปแบบสินเชื่อที่เพื่อวัตถุประสงค์ซื้อที่อยู่อาศัย ปลูกสร้าง และต่อเติมซ่อมแซม โดยผู้กู้ สัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 70 ปี ให้วงเงินกู้สูงสุด 110% โพร้อมทำประกันชีวิต ตามที่เงื่อนไขประกันกำหนด สามารถสมัครได้ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป
สินเชื่อบ้าน-คอนโดนี้เหมาะกับ :มนุษย์เงินเดือน และบุคคลที่ต้องรีไฟแนนซ์
สามารถดูข้อมูลอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้ที่สินเชื่อเคหะ
ทั้งนี้สามารถอ่านบทความการกู้บ้านสำหรับมนุษย์เงินเดือนเพิ่มเติมได้ดังนี้
รูปแบบสินเชื่อที่น่าสนใจคือ “สินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยพิเศษสุด” เป็นรูปแบบสินเชื่อสำหรับบ้านใหม่ ดอกเบี้ยพิเศษ โดยให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของมูลค่าหลักประกัน ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนทั้งนี้ผู้กู้สามารถผ่อนนานสูงสุด 30 ปี ทั้งนี้สำหรับลูกค้าที่ยื่นกู้สินเชื่อบ้านตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 67 - 31 ธ.ค. 67 และจดจำนองภายในวันที่ 31 ม.ค. 67 พร้อมทำประกันตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
สินเชื่อบ้าน-คอนโดนี้เหมาะกับ :มนุษย์เงินเดือน ที่มีรายได้ประจำ 50,000-99,999 บาท/เดือน คนอยากได้บ้านใหม่และบ้านมือสอง
สามารถดูข้อมูลอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้ที่สินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยพิเศษสุด
รูปแบบสินเชื่อที่น่าสนใจคือ “สินเชื่อบ้านใหม่”เป็นสินเชื่อที่ให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินหลักประกัน โดยผู้กู้เลือกทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ กับระยะเวลากู้นานสูงสุด 30 ปี และระยะเวลาผ่อนชำระรวมอายุผู้กู้แล้วไม่เกิน 65 ปี และต้องเป็นลูกค้ากลุ่ม Strategic Group หรือ กลุ่มลุกค้าเป้าหมายตามเงื่อนไขของธนาคาร
สินเชื่อบ้าน-คอนโดนี้เหมาะกับ : คนอยากได้บ้านใหม่
สามารถดูข้อมูลอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้ที่สินเชื่อซื้อบ้านใหม่
ธนาคาร | ปีที่ 1 | ปีที่ 2 | ปีที่ 3 | อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี* |
---|---|---|---|---|
ธนาคารไทยพาณิชย์คงที่ 1 ปี ผ่อนต่ำล้านละ 3,600 บาท นาน 1 ปี | 2.55% | MRR-3.73% | MRR-3.73% | 3.47% |
ธนาคารกสิกรไทย คงที่ 3 ปี | 3.09% | 3.59% | 3.59% | 3.42% |
ธนาคารกรุงเทพ คงที่ 3 ปี (ผ่อนต่ำล้านละ 3,500 บาท / เดือน นาน 3 ปี ) | 2.99% | 2.99% | 2.99% | 2.99% |
ธนาคารกรุงไทย คงที่ 5 ปี (ผ่อนต่ำล้านละ 3,000 บาท/ เดือน นาน 1 ปี) | 2.15% | 3.15% | 4.15% | 3.15% |
ธนาคารออมสิน คงที่ 2 ปี ราคาซื้อขายมากกว่า 10 ล้านบาท | 2.29% | 2.89% | MRR -3.105% | 2.890% |
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สินเชื่อบ้าน 71 ปี ธอส | 0.71% | (6 เดือน), 2.71% (6 เดือน) 2.71% 3.71% 2.71% |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา คงที่ 2 ปีแรก) | 2.50% | 2.75% | MRR-3.00% 3.22 | % |
คอนโด ที่ร่วมโครงการดอกเบี้ยพิเศษ | บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ที่ร่วมโครงการดอกเบี้ยพิเศษ | ทาวน์โฮม ที่ร่วมโครงการดอกเบี้ยพิเศษ |
---|---|---|
ก่อนที่จะซื้อบ้านจะต้องมีการคำนวณอัตราดอกเบี้ยบ้านก่อนเสมอ เพื่อเปรียบเทียบข้อเสนอในแต่ละธนาคาร ซึ่งจะช่วยให้เราได้ผู้ให้สินเชื่อที่ให้ดอกเบี้ยบ้านที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด นอกจากนี้การคำนวณดอกเบี้ยกู้บ้านยังช่วยให้เราสามารถวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนง่ายขึ้นอีกด้วย ซึ่งวิธีคำนวณอัตราดอกเบี้ยบ้านสามารถทำได้ ตามสูตรดังนี้
ตัวอย่างการคำนวณอัตราดอกเบี้ย
ตัวอย่างที่ 1
ตัวอย่างที่ 2
การกู้ซื้อบ้านเป็นเรื่องที่ต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ เพราะถือเป็นค่าใช้จ่ายที่จะอยู่กับเราไปอีกหลายสิบปี หากมีการวางแผนการเงินที่ไม่ดี อาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงิน จนทำให้ส่งบ้านต่อไม่ไหว นอกจากตัวเราเองที่ต้องวางแผนแล้ว ทางธนาคารเองก็จะมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาก่อนอนุมัติคำขอสินเชื่อเช่นเดียวกัน เพื่อประเมินว่าผู้กู้สามารถผ่อนชำระได้ไหวหรือไม่ หลาย ๆ คนอาจจะเคยขอกู้ธนาคารมาแล้ว แต่ก็ยังไม่ผ่าน และอาจสงสัยว่าปัญหานั้นอยู่ที่ไหน แสนสิริจะชวนไปดูกันว่าหลักเกณฑ์ที่ทางธนาคารใช้กู้นั้นมีอะไรบ้าง
คุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สามารถบอกได้ว่าธนาคารจะให้กูหรือไม่ ก่อนที่จะทำการอนุมัติเงินกู้ ธนาคารจะทำการเช็กประวัติเครดิตบูโรของเราก่อนเสมอ เพื่อทำการตรวจสอบว่ามีประวัติในการผ่อนชำระเป็นอย่างไรบ้าง หากมีประวัติเสีย ไม่ว่าจะจ่ายช้า หรือค้างชำระ ก็อาจจะเป็นเรื่องยากที่ธนาคารจะอนุมัติเงินกู้ให้
ความสามารถในการผ่อนเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ธนาคารจะใช้ในการพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ โดยธนาคารจะมีการขอเอกสารสลิปเงินเดือน และรายการเดือนบัญชีเงินเดือนย้อนหลัง เพื่อนำไปพิจารณาว่าฐานเงินเดือนที่ได้รับนั้น มีความเหมาะสมกับจำนวนเงินที่ขอกู้หรือไม่ นอกจากนี้ทางธนาคารยังมีการตรวจสอบภาระหนี้สินทั้งหมดอีกด้วย เพื่อประเมินว่าผู้กู้มีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้จริงหรือไม่
ซึ่งโดยปกติแล้วธนาคารส่วนใหญ่จะอนุมัติเงินกู้ให้ผู้กู้ ที่มีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้สินสูงสุด 40% ของรายได้ เพราะถือเป็นตัวเลขที่มีความเหมาะสมในการผ่อนชำระ และยังเหลือเงินที่สามารถใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้โดยไม่ตึงมือมากเกินไป สำหรับผู้ที่ต้องการกู้เงินให้ผ่านจะต้องมีการวางแผนการเงินล่วงหน้า โดยควรเคลียร์หนี้สินให้มีน้อยที่สุด เพื่อช่วยให้กู้เงินผ่านได้ง่ายนั่นเอง
ในกรณีที่ธนาคารประเมินความสามารถในการกู้ด้วยฐานเงินเดือนแล้วไม่ผ่านการอนุมัติ การใช้หลักประกันสินเชื่อบ้านเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีความน่าสนใจ สำหรับหลักประกันสินเชื่อบ้านเป็นการนำหลักทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ดิน หรือรถยนต์ ใช้เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน ซึ่งวิธีการขอกู้ด้วยการยื่นหลักทรัพย์จะช่วยให้สามารถกู้ผ่านได้ง่ายกว่า อีกทั้งยังอนุมัติเงินเดือนที่มากขึ้นอีกด้วย
การขอเงินกู้ ถือเป็นเรื่องที่ต้องใช้เงินก้อนในปริมาณมาก ๆ อีกทั้งยังเป็นภาระผูกพันที่ใช้เวลาหลายปีในการผ่อนชำระ ดังนั้นก่อนที่จะกู้จะต้องมีการวางแผนทางการเงินให้ดี เพื่อช่วยให้มีสภาพคล่องทางการเงิน และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ นอกจากนี้ก่อนขอกู้จำเป็นจะต้องรู้ข้ออื่น ๆ อีกด้วย ดังนี้
เอกสารที่ใช้ในการขอกู้นั้นถือเป็นเอกสารสำคัญที่ทางธนาคารใช้สำหรับการประเมินว่าจะอนุมัติเงินกู้ให้เราหรือไม่ ซึ่งหลาย ๆ คนเตรียมเอกสารไม่ครบก็จะทำให้ขั้นตอนในการขออนุมัตินั้นช้าออกไป หรือสถาบันทางการเงินบางแห่งอาจปฏิเสธเลยก็มี ซึ่งหากเคยถูกปฏิเสธในการขอกู้แล้ว การขอกู้ครั้งต่อ ๆ ก็จะมีความยากมากขึ้นนั่นเอง ดังนั้นควรเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้มีความพร้อม ซึ่งเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ในการขอสินเชื่อมีดังนี้
การวางแผนการเงินถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญการกับดำเนินชีวิตมาก ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านจะต้องมีการคำนวณรายรับ และรายจ่ายทั้งหมด เพื่อประเมินว่ามีความสามารถในการผ่อนชำระหรือไม่ เพราะหากไม่มีการวางแผนทางการเงิน อาจทำให้เกิดปัญหาสภาพคล่องจนไม่สามารถผ่อนชำระได้ ดอกเบี้ยบ้านก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่สามารถจ่ายไหว ดังนั้นก่อนตัดสินใจกู้ต้องวางแผนทางการเงินให้ดี ที่สำคัญนอกเหนือจากเงินที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือนแล้ว ผู้กู้ควรเตรียมเงินก้อนไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อใช้สำหรับใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าโอน เงินดาวน์ หรือค่าตกแต่งรวมถึงซื้อเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ควรรู้ก่อนทำการกู้ซื้อบ้านคือต้องมีการสำรวจโครงการบ้านที่ต้องการซื้อก่อนว่าหลังที่ต้องการนั้นราคาเท่าไร เพื่อนำมาประเมินความสามารถในการผ่อนชำระ นอกจากนี้ควรสำรวจโครงการด้วยว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เหมาะสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยหรือไม่ นอกจากนี้ควรเลือกซื้อบ้านจากโครงการที่มีความเชื่อถือ เพื่อช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ ไม่ทิ้งโครงการกลางคัน และได้มาตรฐาน
อัตราดอกเบี้ยบ้านของแต่ละธนาคารก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนกู้ซื้อบ้านควรสำรวจอัตราดอกเบี้ยบ้านของแต่ละสถาบันการเงินให้ละเอียดรอบคอบ เพื่อที่จะได้ดอกเบี้ยกู้บ้านในอัตราที่มีความเหมาะสม
อัปเดตอัตราดอกเบี้ย ดอกเบี้ยบ้านจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยประจำเดือนตุลาคม 2567 ไปแล้ว สำหรับใครที่กำลังมองบ้าน ทาวน์โฮม คอนโด ในราคาเอื้อมถึง สะดวกสบายทุกสัดส่วน แนะนำให้ศึกษาข้อมูลโครงการต่างๆ จากแสนสิริ ไม่ว่าจะเป็นรีวิวโครงการที่จะทำให้เข้าถึงบ้านได้ทุกซอกทุกมุม ไปพร้อมกับได้รับข้อเสนอพิเศษโปรโมชันมากมายอีกทั้งยังได้บริการที่ปรึกษาทุกเรื่องการซื้อบ้านHome Financial Plannerที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น
สำหรับการคำนวณดอกเบี้ยทางธนาคารจะใช้สูตรในการคิดโดย
ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่องวด = (เงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันในงวดนั้น) ? จำนวนวันใน 1 ปี
MRR ย่อมาจาก Minimum Retail Rate หมายถึงดอกเบี้ยแบบลอยตัว (Floating Rate) ซึ่งเป็นดอกเบี้ยที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด
ดอกเบี้ยแบบ MRR นั้นเป็นดอกเบี้ยแบบลอยตัว ที่จะมีการปรับขึ้นลงอยู่ตลอด ซึ่งแต่ละธนาคารก็จะมีอัตรา MRR ไม่เท่ากัน สำหรับMRR ปรับขึ้นบ่อยไหมนั้นขึ้นอยู่กับธนาคารแห่งประเทศไทยจะเป็นผู้กำหนด
โปรทาวน์โฮมพร้อมอยู่ Fur Fulfilled แต่งครบจัดให้ ถูกใจโฮ่งเหมียว รับฟรี! เฟอร์ฯ แต่งครบทั้งหลังจาก SB Furniture รวม 500,000 บาท* วันนี้ - 31 ธ.ค. 67
อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ (Refinance) บ้าน คอนโด 2567 ที่ไหนดี | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
15 ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน ช่วยดูดสารพิษ สร้างอากาศบริสุทธิ์ | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
ย้ายเข้าบ้านใหม่วันไหนดี ต้องทำอะไรบ้าง ตามวันเกิด ปี 2567 | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
ค่าโอนบ้านพร้อมที่ดิน คอนโด ทาวน์โฮม จ่ายเท่าไหร่ คำนวณยังไง | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
ซื้อบ้านราคา 8-10 ล้าน ต้องผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ถึงจะพอ | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ บ้าน คอนโด (Refinance) ปี 2567 ธนาคารไหนดี เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารชั้นนำ และเครื่องมือคำนวณเงินกู้เบื้องต้น
ซื้อบ้านราคา 8-10 ล้านผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ดีถึงจะไม่ต้องกังวล ปัญหานี้จะหมดไป เมื่อได้ความรู้เรื่องการกู้ซื้อบ้านจากแสนสิริ
อยากปิดหนี้บ้าน ควรศึกษาเงื่อนไข ข้อกำหนดของแต่ละธนาคาร เพื่อจะได้บริหารจัดการทางเงิน และทำความเข้าใจเรื่องค่าปรับ ว่าต้องเสียหรือไม่เสีย
ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ บ้าน คอนโด (Refinance) ปี 2567 ธนาคารไหนดี เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารชั้นนำ และเครื่องมือคำนวณเงินกู้เบื้องต้น
ซื้อบ้านราคา 8-10 ล้านผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ดีถึงจะไม่ต้องกังวล ปัญหานี้จะหมดไป เมื่อได้ความรู้เรื่องการกู้ซื้อบ้านจากแสนสิริ
อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ (Refinance) บ้าน คอนโด 2567 ที่ไหนดี | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
15 ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน ช่วยดูดสารพิษ สร้างอากาศบริสุทธิ์ | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
ย้ายเข้าบ้านใหม่วันไหนดี ต้องทำอะไรบ้าง ตามวันเกิด ปี 2567 | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
ค่าโอนบ้านพร้อมที่ดิน คอนโด ทาวน์โฮม จ่ายเท่าไหร่ คำนวณยังไง | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
ซื้อบ้านราคา 8-10 ล้าน ต้องผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ถึงจะพอ | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >