รับมือน้ำท่วมบ้าน พร้อมเคล็ดลับป้องกัน ฟื้นฟูบ้านมืออาชีพ

ตรวจสภาพบ้าน พร้อมรับมือน้ำท่วม

ถ้ารู้ตัวว่าบ้านตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำ ที่ลุ่มต่ำ หรืออยู่ในเขตที่ยืนหนึ่งเรื่องน้ำท่วมมาโดยตลอด แนะนำให้ตรวจสภาพบ้าน เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดเหตุน้ำท่วมดังต่อไปนี้

• ตรวจสอบระบบไฟ

  เช็กสภาพคัตเอาต์พร้อมใช้งานหรือไม่ หากเกิดเหตุน้ำท่วม ควรดึงคัตเอาต์ลง ตัดระบบไฟฟ้าในบ้านไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เสี่ยงถูกไฟดูด และเมื่อถึงเวลาน้ำลด ให้รอน้ำแห้งประมาณ 1-3 วัน ถึงดึงคัตเอาต์ขึ้น พร้อมทดสอบวงจรไฟฟ้าภายในบ้านอีกครั้ง หากเปิดแล้วมีการตัดการจ่ายไฟ แสดงว่ามีจุดไฟฟ้าลัดวงจร จำเป็นจะต้องเรียกช่างไฟมาตรวจเช็ก ซ่อมแซม เพิ่มเติม

• ตรวจสอบถังแก๊ส

  อีกหนึ่งจุดอันตรายภายในบ้าน หากได้กลิ่นแก๊สรั่ว ให้ปิดวาล์วที่ถังแก๊ส หัวเตา และนำถังแก๊สไปวางในที่อากาศถ่ายเท ห้ามเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด พร้อมนำคนในครอบครัวออกมาจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว และโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉิน 199

• ตรวจสอบระบบน้ำ

  ปั๊มน้ำ ควรถอดปลั๊กและดึงคัตเอาต์ลงเมื่อเกิดเหตุน้ำท่วม และห้ามนำปั๊มน้ำมาตากแดด เพราะอาจจะทำให้มอเตอร์ไหม้ ได้รับความเสียหายได้ ดังนั้นจึงควรเรียกช่างหรือผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบและซ่อมแซมก่อนใช้งานอีกครั้ง

• ตรวจสอบโครงสร้าง

  ไม่ว่าจะเป็นตัวบ้าน ระเบียง หลังคา ฝ้าเพดาน ผนัง หรือพื้นควรหมั่นตรวจสอบอยู่บ่อยๆ แม้ว่าบ้านยังไม่เสี่ยงน้ำท่วม เพราะถ้าหากพบมีรอยรั่ว รอยร้าว อาจทำให้ตัวบ้านเกิดความเสียหาย และสมาชิกในบ้านได้รับอันตรายได้




ซื้อบ้านแถวไหนดีน้ำไม่ท่วม พร้อมแนะนำแบบบ้านป้องกันน้ำท่วม




• ตรวจสอบห้องน้ำ

  เพราะห้องน้ำ เป็นพื้นที่ทั้งระบายน้ำและระบายของเสียภายในบ้าน ดังนั้นหากเกิดเหตุน้ำท่วมขังบ่อเกรอะ บ่อซึม อาจทำให้ของเสียไม่สามารถซึมออกมาได้และอาจจะทำให้น้ำไหลย้อนขึ้นกลับเข้ามาในบ่อ ส่งผลให้ชักโครกกดไม่ลง ดังนั้นจึงควรเรียกช่างประปาหรือผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตรวจสอบ

• ตรวจสอบประตูบ้านและรั้วบ้าน

  ประตูและรั้วบ้านเปรียบเสมือนด่านแรกของบ้าน ดังนั้นหากพบมีร่องรอยชำรุด หรือผุพัง จึงควรซ่อมแซมทันที หากเป็นประตูพลาสติกหรือวัสดุสังเคราะห์ จะมีคุณสมบัติทนน้ำ แต่ถ้าเป็นประตูไม้ หากโดนน้ำอาจบวม ปิดได้ไม่สนิท แนะนำให้ลองถอดประตูออกมาเช็ด และผึ่งไว้ให้แห้ง ส่วนประตูเหล็กถ้าโดนน้ำจะเป็นสนิม ให้ใช้น้ำยาขัดสนิมเช็ดทำความสะอาด รอให้ประตูแห้งสนิทแล้วทาสีทับ

1. ป้องกันน้ำท่วมด้วย แผ่นกำแพงกั้นน้ำ หรือ กระสอบทราย

เตรียมความพร้อมรับมือน้ำหนุน ฝนตกหนักด้วยวิธีสุดคลาสสิก นำกระสอบทรายมาวางทับกันในลักษณะสลับฟันปลา และแนะนำให้วางห่างจากตัวบ้านประมาณ 2 เมตร เพื่อจะได้สังเกตจุดรั่ว พร้อมป้องกันน้ำท่วมได้ทันที แต่ถ้าอยากได้ความแข็งแรง ลองใช้แผ่นกำแพงกั้นน้ำ ที่มีขายในออนไลน์และตามร้านขายวัสดุก่อสร้าง มาวางเป็นเขื่อนกั้นน้ำ ก็จะช่วยป้องกันน้ำท่วมบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. อุดรูต่างๆ กันน้ำเข้าบ้าน

อีกหนึ่งขั้นตอนที่ทุกบ้านควรให้ความสำคัญ นั่นคือการสำรวจรูต่างๆ ในบ้าน จุดสำคัญที่เมื่อน้ำท่วมจะทะลักเข้ามาในบ้านได้ ดังนั้นจึงควรนำดินน้ำมันมารีบอุดรูต่างๆ ในบ้านให้เรียบร้อย

3. อุดท่อระบายน้ำ

ท่อระบายน้ำ นอกจากจะมีคุณสมบัติระบายน้ำออกจากบ้านแล้ว เมื่อเกิดน้ำท่วม ยังสามารถดูดน้ำเข้าบ้านได้อีกด้วย สาเหตุจากน้ำในท่อระบายไม่ได้ และไหลย้อนกลับขึ้นมา ดังนั้นวิธีแก้คือ อาจนำท่อพีวีซีขนาดใหญ่กว่าปากท่อและมีความยาวพอสมควร มาครอบและอุดรอยต่อด้วยซิลิโคน

4. บานเหล็กปิดช่องประตูรั้วบ้าน

ส่วนใหญ่แล้วประตูรั้วบ้าน มักจะมีช่องตามลวดลายของเหล็ก เพื่อสร้างความโปร่งให้กับประตูรั้ว ดังนั้นเมื่อถึงเวลาป้องกันน้ำท่วมเข้าบ้าน สามารถใช้บานเหล็ก หรือ แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด มาปิดช่อง เพื่อป้องกันรั่วซึมเข้าบ้าน

5. ฟิวเจอร์บอร์ด ปิดช่องกำแพงบ้าน

โดยปกติแล้วบริเวณกำแพงบ้านจะมีช่องแสง ซึ่งจะเป็นอีกจุดที่น้ำไหลเข้ามาได้ จึงควรเลือกใช้ฟิวเจอร์บอร์ด มาตอกตะปู พร้อมยิงด้วยซิลิโคนปิดช่องกำแพง เพื่อป้องกันน้ำท่วมบ้าน