15 ต้นไม้ประดับปลูกในบ้านมีอะไรบ้าง พร้อมวิธีปลูกและดูแล

1. กวักมรกต

กวักมรกตเป็นไม้ประดับ ที่มีจุดเด่นที่ใบสีเขียวเข้มเป็นมัน รูปร่างคล้ายใบโพธิ์ ลำต้นตั้งตรงและมีข้อปล้องชัดเจน ความสูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร ใบมีลักษณะหนาและเรียบ ทำให้ดูแลรักษาง่าย ไม่เปราะบางเหมือนไม้ใบบางชนิด

• วิธีปลูก: ต้นกวักมรกตต้องการดินที่ระบายน้ำได้ดี เช่น ดินร่วนผสมทราย หรือดินผสมกับพีทมอส เพื่อป้องกันการเกิดรากเน่า รวมถึงการเลือกกระถางที่มีรูระบายน้ำด้านล่าง ขนาดควรพอดีกับต้น เพื่อให้รากสามารถเติบโตได้อย่างเหมาะสม
• วิธีดูแลรักษา: ชอบแสงแดดอ่อนถึงปานกลาง ไม่ชอบแดดจัด รดน้ำเมื่อดินแห้ง ประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ทนต่อความชื้นได้ดี
• จุดเด่น: ใบสีเขียวเข้มเป็นมันวาว สวยงามและดูแลง่าย ทนต่อสภาพแวดล้อมภายในบ้านได้ดี เชื่อกันว่าช่วยดึงดูดโชคลาภและความมั่งคั่ง

2. ว่านเศรษฐีเรือนใน

สำหรับใครที่กำลังมองหาไม้ประดับเพื่อปลูกประดับบ้าน ว่านเศรษฐีเรือนในเป็นไม้ประดับกอเล็ก ๆ ที่มีลักษณะเด่นคือใบสีเขียวเข้มมีลายด่างสีขาวหรือครีม เป็นไม้ประดับที่เชื่อกันว่าเป็นไม้มงคลที่ใครปลูกก็จะช่วยให้โชคดี มั่งมี อีกทั้งยังเป็นไม้ฟอกอากาศในบ้านอีกด้วย

• วิธีปลูก: ว่านเศรษฐีเรือนในชอบดินร่วนและระบายน้ำได้ดี เช่น ดินผสมกับทราย ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ใช้กระถางที่มีรูระบายน้ำ ขนาดไม่ต้องใหญ่มาก
• วิธีดูแลรักษา: ชอบแสงแดดร่มรำไร ไม่ชอบแดดจัด รดน้ำเมื่อดินแห้ง ประมาณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ทนความแห้งแล้งได้ดี
• จุดเด่น:ใบมีลายด่างสวยงาม ทนทานและดูแลง่าย เชื่อว่าปลูกแล้วจะช่วยเสริมโชคลาภและความมั่งคั่ง

3. สับปะรดสี

สับปะรดสี หรือ บรอมีเลียด (Bromeliad) เป็นไม้ประดับที่ปลูกง่าย และมีความทน เพราะสามารถปลูกได้ทั้งในดิน เกาะไว้กับขอนไม้ หรือวางแซมไปกับก้อนหินก็สามารถเจริญเติบโตได้ดี สำหรับสับปะรดสีนั้นเป็นไม้ประดับที่มีหลากหลายขนาด หลากหลายสีให้เลือกตามความชอบ เมื่อเลี้ยงไปสักระยะจะมีดอกเล็ก ๆ ปรากฏออกมาให้เราได้ชื่นชม

• วิธีปลูก: การปลูกสับปะรดสีเพื่อเป็นไม้ประดับนั้นไม่ยากอย่างที่คิด ใช้วัสดุปลูกที่ระบายน้ำและอากาศได้ดี เช่น กาบมะพร้าวสับ ขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อจากต้นแม่ที่มีใบประมาณ 3-4 ใบ แล้วนำมาปักชำในกระถาง
• วิธีดูแลรักษา: ชอบแสงแดดจัด ถึงแสงแดดปานกลาง รดน้ำเมื่อดินแห้ง ประมาณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ทนต่อความแห้งแล้งได้ดี
• จุดเด่น: สีสันสดใสหลากหลาย ทรงต้นกะทัดรัด เหมาะสำหรับตกแต่งภายในบ้านหรือสำนักงาน

4. กุหลาบหิน

สำหรับใครที่กำลังมองหาไม้ประดับที่ทนความแล้งได้ดี และมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครจะต้องตกหลุมรักกับ กุหลาบหิน อย่างแน่นอน เพราะกุหลาบหินนั้นเป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี มีรูปทรงใบที่มีความสวยงาม แตกต่างกันออกไปตามแต่ละสายพันธุ์ เมื่อเลี้ยงได้ระยะหนึ่งจะออกดอกให้เราได้เชยชม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะบานในช่วงฤดูหนาว โดยจะบานนานถึง 2-3 เดือน

• วิธีปลูก: เตรียมกระถางที่มีการระบายน้ำดี ใช้ดินร่วนผสมกับทรายหยาบในอัตราส่วน 2:1 นำต้นกุหลาบหินหรือใบที่แข็งแรงมาปลูกในกระถางที่เตรียมไว้ โดยรดน้ำเพียงสัปดาห์ละครั้งเพื่อป้องกันรากเน่า
• วิธีดูแลรักษา: ชอบแสงแดดรำไร หรือแสงแดดจัด สามารถทนแล้งได้ดี
• จุดเด่น: รูปทรงของใบที่เรียงซ้อนกันอย่างสวยงาม

5. สาวน้อยประแป้ง

สาวน้อยประแป้งเป็นไม้ประดับที่จัดว่าเป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี มีความโดดเด่นที่ใบสีเขียวสวยงาม พร้อมทั้งมีจุดประสีขาวกระจายทั่วทั้งใบ ที่มีความคล้ายกับการปะแป้ง จึงเป็นที่มาของชื่อว่าสาวน้อยประแป้งนั่นเอง

• วิธีปลูก: สาวน้อยประแป้งเป็นไม้ประดับบ้านที่เหมาะกับดินร่วนผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เพื่อเพิ่มธาตุอาหารและช่วยในการระบายน้ำ ควรใส่ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูงอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันปัญหาใบเหลือง
• วิธีดูแลรักษา: ชอบแสงแดดอ่อนถึงปานกลาง ไม่ชอบแดดจัด รดน้ำเมื่อดินเริ่มแห้ง ประมาณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ชอบความชื้นสูง
• จุดเด่น: ลักษณะใบที่ดูนุ่มนวลเหมือนมีแป้งโรย สร้างความสวยงามให้กับพื้นที่ในบ้าน

6. บอนสี

บอนสีได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งไม้ประดับ เพราะรูปทรงของใบที่มีความงดงาม อ่อนช้อย อีกทั้งยังมีสีสันให้เลือกหลากหลาย เช่น เขียว แดง ชมพู ขาว และม่วง บางสายพันธุ์มีลายด่างที่สวยงาม ลำต้นสั้น เติบโตเป็นกอ ทำให้บอนสีได้รับความนิยมในการนำมาจัดสวน

• วิธีปลูก: การปลูกบอนสี เริ่มจากการใช้ดินร่วนผสมปุ๋ยหมักหรือดินปลูกที่มีความชื้นสูงและระบายน้ำได้ดี เลือกกระถางที่มีรูระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำขัง จากนั้นวางหัวบอนสีลงในดินให้ส่วนบนของหัวพ้นดินเล็กน้อยแล้วกลบเบา ๆ รดน้ำให้ดินชุ่มและรักษาความชื้นไว้อย่างสม่ำเสมอ
• วิธีดูแลรักษา: ชอบแสงแดดร่มรำไร ไม่ชอบแดดจัด รดน้ำให้ชุ่มเมื่อดินเริ่มแห้ง ประมาณสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ชอบความชื้นสูง
• จุดเด่น: ใบขนาดใหญ่ และสีสันสวยงาม ช่วยเพิ่มสีสันให้กับพื้นที่สวน แถมยังมีหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือก

7. เดซี่

ดอกเดซี่เป็นดอกไม้จิ๋ว ๆ ที่นอกจากความน่ารักแล้ว ยังเป็นดอกไม้ที่มีความหมายดี ๆ ที่สื่อถึงความรักที่บริสุทธิ์ หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นชินกับดอกเดซี่สีขาว เกสรสีเหลือง แต่จริง ๆ แล้วเดซี่นั้นมีสีให้เลือกมากมาย ทั้งเดซี่สีเหลือง เดซี่สีม่วง เดซี่สีแดงเดซี่สีส้ม และเดซี่สีชมพู ด้วยความหลากหลายของสีสันทำให้ดอกเดซี่ได้รับความนิยมในการจัดสวน และปลูกเป็นไม้ประดับ

• วิธีปลูก: หว่านเมล็ดเดซีลงในดิน แล้วกลบด้วยดินเบา ๆ โดยใช้เป็นดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี หรือถ้าปลูกจากต้นกล้า ให้วางต้นกล้าในกระถางแล้วเติมดินรอบ ๆ โคนต้น จากนั้นให้รดน้ำเบาๆ หรือจะใช้วิธีฉีดสเปรย์น้ำก็ได้ แล้วนำพลาสติกมาคลุมไว้เพื่อรักษาความชื้น
• วิธีดูแลรักษา: รดน้ำเพียงวันละ 2 ครั้ง ตั้งกระถางในที่ที่ได้รับแสงแดดเต็มวัน เพื่อให้ดอกเดซีเจริญเติบโตและออกดอกสวยงาม
• จุดเด่น: ลักษณะดอกที่มีความน่ารัก ช่วยเพิ่มความสดในให้กับบ้าน

8. ปาล์มไผ่

ปาล์มไผ่เป็นไม้ประดับสุดน่ารักที่จะทำให้บ้านคุณดูเหมือนมีป่าไผ่จิ๋ว ๆ ในบ้าน ด้วยลำต้นเรียวยาวสีเขียวอ่อนหรือเหลืองนวล และใบเล็กๆ เรียงตัวสวยงาม ปาล์มไผ่เป็นต้นไม้ประดับบ้านที่จะสร้างบรรยากาศสดชื่นและผ่อนคลายให้กับทุกมุมของบ้าน ไม่ว่าจะวางไว้บนโต๊ะทำงานหรือมุมพักผ่อน

• วิธีปลูก: ปาล์มไผ่ เหมาะสำหรับดินร่วนซุยผสมกับปุ๋ยอินทรีย์ ในช่วงแรกควรใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอทุก 1-2 เดือน เพื่อเร่งการเจริญเติบโต หมั่นตัดแต่งใบแห้งและทำความสะอาดโคนต้นเพื่อป้องกันโรคและแมลง
• วิธีดูแลรักษา: ชอบแสงสว่างแต่ไม่แดดจัด รดน้ำพอชุ่มสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
• จุดเด่น: ทรงต้นสวยเหมือนไผ่ขนาดจิ๋ว เพิ่มความสดชื่นให้พื้นที่

9. ผีเสื้อราตรี

ผีเสื้อราตรีเป็นไม้ประดับที่จะทำให้คุณตกหลุมรัก ด้วยใบรูปหัวใจที่ด้านบนจะมีสีม่วงเข้มส่วนด้านล่างจะเป็นสีม่วงอมชมพู ทำให้ใบดูราวกับมีผีเสื้อสีสวยมาเกาะอยู่ในบ้านคุณตลอดเวลา นอกจากนี้เมื่อเลี้ยงไปได้ระยะหนึ่งต้นผีเสื้อกลางคืนจะออกดอกเล็ก ๆ สีม่วงชมพูที่ช่วยเพิ่มความสดใสให้กับบ้าน เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบไม้ใบสีสันสดใส

• วิธีปลูก: เริ่มจากการเลือกกระถางที่มีการระบายน้ำดีและใช้ดินร่วนผสมแกลบดำหรือขุยมะพร้าว ใส่ปุ๋ยหรือปุ๋ยคอกทุก 1-2 เดือนเพื่อเร่งการเจริญเติบโตและการออกดอก หมั่นตัดแต่งกิ่งและใบที่แห้งหรือเป็นโรคออก
• วิธีดูแลรักษา: ชอบแสงสว่างแต่ไม่โดนแดดโดยตรง รดน้ำเมื่อผิวดินแห้ง
• จุดเด่น: ใบสีม่วงสวยเหมือนปีกผีเสื้อ ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้บรรยากาศภายในบ้าน

10. เข็มสามสี

เข็มสามสีเป็นต้นไม้ประดับพุ่มเตี้ยที่ใบจะมีด้วยกัน 3 สี คือสีเขียว ขาว และชมพู อยู่รวมกันในต้นเดียว เหมือนกับการจัดช่อดอกไม้ไว้ในบ้านตลอดเวลา แถมยังปลูกง่าย ทนทาน เหมาะมากสำหรับมือใหม่หัดปลูกต้นไม้

• วิธีปลูก: เข็มสามสีเป็นไม้ประดับที่ต้องการดินน้อย แต่ควรเป็นดินที่ระบายน้ำได้ดีและมีสารอินทรีย์สูง เลือกกระถางที่มีรูระบายน้ำเพื่อลดความเสี่ยงของรากเน่า จากนั้นวางต้นเข็มสามสีลงในกระถาง เติมดินรอบโคนต้นให้พอดีกับระดับราก โดยไม่กดดินให้แน่นเกินไป
• วิธีดูแลรักษา: ชอบแดดจัด รดน้ำประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ตัดแต่งได้ตามต้องการ
• จุดเด่น: ใบสีสันสดใส 3 สี ที่พร้อมมอบความสวยงามได้ตลอดทั้งปี

11. ชวนชม

ชวนชมเป็นไม้ดอกที่เลี้ยงง่าย อีกทั้งยังมีดอกให้เลือกหลากหลายสีสัน ทั้งขาว ชมพู แดง และเหลือง ที่บานสะพรั่งตลอดปี ช่วยทำให้บ้านมีความสดใสมากขึ้น ที่สำคัญยังช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบความสดใส

• วิธีปลูก: ชวนชม เป็นไม้ประดับที่เหมาะสำหรับดินร่วนผสมทรายหรือดินปลูกที่ระบายน้ำได้ดี เช่น ดินผสมทรายหยาบ เพื่อป้องกันการขังของน้ำ ควรเลือกกระถางที่มีรูระบายน้ำ และขนาดพอเหมาะกับต้น
• วิธีดูแลรักษา: ชอบแดดจัด รดน้ำสม่ำเสมอ ตัดแต่งเพื่อให้แตกยอดใหม่
• จุดเด่น: ดอกสวยหลากสี บานตลอดปี

12. พิทูเนียร์

อีกหนึ่งไม้ดอกไม้ประดับที่อยากแนะนำให้ทุกคนปลูกคือ พิทูเนียร์ เพราะเป็นไม้ดอกที่จะเนรมิตระเบียงหรือสวนเล็ก ๆ ของคุณให้เป็นทุ่งดอกไม้สีสันสดใส! เพราะดอกมีหลากหลายสี ทั้งม่วง ชมพู แดง และขาว บานสะพรั่งตลอดฤดูกาล เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบความสดใสและต้องการสร้างบรรยากาศให้บ้านมีความสดใส สดชื่น ยิ่งปลูกใส่กระถางก็จะเหมือนเราจัดช่อดอกไม้เลยทีเดียว

• วิธีปลูก: หว่านเมล็ดพิทูเนียลงในดินบาง ๆ หรือถ้าปลูกจากต้นกล้า ให้วางต้นกล้าในกระถางและเติมดินรอบ ๆ โคนต้น รดน้ำให้ชุ่มในครั้งแรก
• วิธีดูแลรักษา: ชอบแดดจัด รดน้ำสม่ำเสมอ เด็ดดอกเก่าเพื่อกระตุ้นการออกดอกใหม่
• จุดเด่น: ดอกบานสะพรั่ง สีสันสดใส เหมาะสำหรับแขวนหรือปลูกในกระถาง

13. แคคตัส

แคคตัสเป็นอีกหนึ่งไม้ประดับที่มีความสวยเก๋ไม่เหมือนใคร เพราะแคคตัสนั้นมีรูปทรงที่หลากหลาย จึงเป็นไม้ประดับที่เหมือนงานศิลปะชิ้นเล็ก ๆ ในบ้าน ดูแลง่าย เหมาะสำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลต้นไม้ ก็สามารถปลูกให้โตได้

• วิธีปลูก: เริ่มด้วยการใช้ดินที่ระบายน้ำได้ดี เช่น ดินร่วนผสมทรายหรือดินสำหรับปลูกกระบองเพชรโดยเฉพาะ และเลือกกระถางที่มีรูระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำขัง
• วิธีดูแลรักษา: ชอบแดดจัด รดน้ำน้อยๆ เดือนละ 1-2 ครั้ง
• จุดเด่น: รูปทรงแปลกตา หลากหลายสายพันธุ์ ดูแลง่าย ทนแล้ง

14. มอนสเตอร่า

มอนสเตอร่าเป็นไม้ใบขนาดใหญ่ที่จะทำให้บ้านคุณดูทันสมัยขึ้นในทันที ด้วยรูปทรงของใบที่มีความโมเดิร์น อีกทั้งยังเป็นสีเขียวเข้มที่มีขนาดใหญ่ พร้อมรอยฉลุธรรมชาติ การปลูกต้นมอนสเตอร่าจึงช่วยสร้างบรรยากาศเหมือนอยู่ในป่าเขตร้อน เหมาะสำหรับคนที่อยากจัดบ้านสไตล์ทรอปิคอล

• วิธีปลูก: ต้นมอนสเตอรา เหมาะสำหรับดินร่วน หรือดินร่วนปนทราย เนื่องจากต้นมอนสเตอร่าเป็นไม้ประดับที่ชอบความชื้นมาก แนะนำให้ใส่กากมะพร้าวสับ เพอร์ไลท์ ลงในดินด้วย เพื่อให้ดินสามารถกักเก็บความชื้นได้ดีมากขึ้น
• วิธีดูแลรักษา: ชอบแสงสว่างแต่ไม่โดนแดดจัด รดน้ำเมื่อดินแห้ง ฉีดน้ำที่ใบบ้าง
• จุดเด่น: ใบขนาดใหญ่สวยงาม เติบโตเร็ว สร้างบรรยากาศเขตร้อน

15. พรมญี่ปุ่น

พรมญี่ปุ่นเป็นไม้คลุมดินที่จะทำให้บ้านคุณดูสดชื่น ด้วยใบเล็ก ๆ สีเขียวสดที่แผ่คลุมไปทั่ว ทั้งกระถาง เหมือนกับการปูพรมสีเขียวธรรมชาติไว้ในบ้าน จึงเหมาะสำหรับตกแต่งสวนหิน หรือปลูกร่วมกับต้นไม้อื่น ๆ

• วิธีปลูก: การปลูกไม้ประเภทนี้เน้นใช้ขุยมะพร้าวและกาบมะพร้าวในอัตราส่วน 1:1 โดยรองก้นกระถางด้วยกาบมะพร้าวสับ เพื่อป้องกันการขังน้ำและลดความชื้นส่วนเกิน
• วิธีดูแลรักษา: ชอบแสงสว่างแต่แดดไม่จัด ไม่ชอบน้ำขัง เพราะอาจทำให้รากเน่าได้
• จุดเด่น: สร้างพื้นผิวสีเขียวสวยงาม เติบโตคลุมพื้นที่ได้ดี ดูแลง่าย