มนุษย์เงินเดือนที่ตัดสินใจกู้เงินซื้อบ้านกับธนาคาร แน่นอนว่าต้องขอข้อเสนอดอกเบี้ยถูกไว้ก่อน ดังนั้นช่วง 3 ปีแรกของการผ่อนบ้าน รูปแบบของดอกเบี้ยที่เจอจะเป็นลักษณะดอกเบี้ยคงที่ (MRR) หลังจากนั้นอัตราดอกเบี้ยจะเข้าสู่ภาวะดอกเบี้ยลอยตัว (MLR) ทันที เหตุนี้จึงทำให้มนุษย์เงินเดือนหลายคนหาทางออกเพื่อไม่ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยที่ผันแปรไปตามเศรษฐกิจและข้อกำหนดของธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วยการขอยื่น Refinance กับธนาคารใหม่ หรือไม่ก็ทำการ Retention ทำธนาคารเดิม ซึ่งหลายคนอาจกำลังสับสนว่าการ Refinance กับการ Retention บ้านนั้นคืออะไร ต่างกันแค่ไหน และการผ่อนแบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน
โดยปกติแล้วเมื่อดอกเบี้ยบ้านปรับสูงขึ้นวิธีการลดดอกเบี้ยจะมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน ได้แก่
รีไฟแนนซ์หรือ Refinance คือ การขอยื่นกู้สินเชื่อบ้านกับธนาคารใหม่ เพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยบ้านต่ำลง ซึ่งจะช่วยให้ยอดผ่อนต่อเดือนน้อยลงและผ่อนบ้านหมดไวยิ่งขึ้น
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์ ได้แก่ การลดภาระหนี้สิน ประหยัดดอกเบี้ย ปรับปรุงสภาพคล่องทางการเงิน และสามารถจัดการกับหนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การรีไฟแนนซ์อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าธรรมเนียมการโอนสินทรัพย์ ค่าประเมินราคา และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ดังนั้น ลูกหนี้ควรคำนวณและเปรียบเทียบต้นทุนทั้งหมดก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์
นอกจากนี้ การรีไฟแนนซ์อาจส่งผลกระทบต่อคะแนนเครดิตในระยะสั้น เนื่องจากการสมัครสินเชื่อใหม่จะถูกบันทึกไว้ในประวัติเครดิต และการปิดบัญชีเดิมอาจลดอายุเฉลี่ยของบัญชีลง โดยรวมแล้ว การรีไฟแนนซ์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงสถานะทางการเงินและจัดการหนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
รีเทนชั่นหรือ Retention คือ การขอลดอัตราดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารเดิม เมื่อคุณผ่อนบ้านในอัตราดอกเบี้ยคงที่จนครบ 3 ปีหรือตามกำหนดในสัญญาแล้ว จะสามารถทำการยื่นเรื่องกับธนาคารเดิมที่ตนเองกู้บ้านเพื่อขอต่อรองอัตราดอกเบี้ยในเรทต่ำได้
การขอลดอัตราดอกเบี้ยบ้านมักจะเกิดขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือเมื่อผู้กู้มีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น มีรายได้เพิ่มขึ้น มีคะแนนเครดิตที่ดีขึ้น หรือมีหลักประกันที่มากขึ้น ในกรณีเช่นนี้ ผู้กู้สามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้ออ้างในการเจรจาขอลดอัตราดอกเบี้ยกับสถาบันการเงิน
หากได้รับการอนุมัติการลดอัตราดอกเบี้ย ผู้กู้จะได้รับประโยชน์จากการลดภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระหนี้รายเดือน และประหยัดดอกเบี้ยในระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้สามารถจ่ายคืนเงินกู้ได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม การขอลดอัตราดอกเบี้ยบ้านอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เช่น ค่าธรรมเนียมการรีไฟแนนซ์ หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ดังนั้น ผู้กู้ควรคำนวณและเปรียบเทียบต้นทุนทั้งหมดก่อนตัดสินใจ
นอกจากนี้ การขอลดอัตราดอกเบี้ยบ้านอาจส่งผลกระทบต่อคะแนนเครดิตในระยะสั้น เนื่องจากการยื่นคำขอจะถูกบันทึกไว้ในประวัติเครดิต และอาจมีผลต่ออายุเฉลี่ยของบัญชีด้วย โดยรวมแล้วการขอลดอัตราดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารเดิมเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายและประหยัดดอกเบี้ยในระยะยาว
รีไฟแนนซ์ (Refinance) กับรีเทนชั่น (Retention) เป็นกระบวนการทางการเงินที่มีจุดมุ่งหมายคล้ายคลึงกันในการปรับปรุงเงื่อนไขการกู้ยืมเงินให้ดีขึ้น แต่มีความแตกต่างที่สำคัญดังนี้
ความแตกต่าง | รีไฟแนนซ์ (Refinance) | รีเทนชั่น (Retention) |
---|---|---|
|
มีวัตถุประสงค์เพื่อกู้ยืมเงินจากแหล่งใหม่เพื่อนำมาชำระหนี้เดิมทั้งหมด โดยมักได้รับเงื่อนไขที่ดีกว่าเดิม เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า ระยะเวลาผ่อนชำระนานขึ้น หรือจำนวนเงินผ่อนชำระรายเดือนลดลง | มีวัตถุประสงค์เพื่อขอลดอัตราดอกเบี้ยของสัญญาเดิมที่มีอยู่กับสถาบันการเงินปัจจุบัน โดยไม่มีการกู้ยืมเงินใหม่หรือเปลี่ยนสถาบันการเงิน |
|
ต้องผ่านกระบวนการสมัครกู้ยืมเงินใหม่ทั้งหมด รวมถึงการประเมินสินเชื่อและการอนุมัติจากสถาบันการเงินใหม่ | เป็นการเจรจากับสถาบันการเงินปัจจุบันเพื่อขอลดอัตราดอกเบี้ย โดยไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการสมัครกู้ยืมเงินใหม่ทั้งหมด |
|
จะมีการปิดบัญชีสินเชื่อเดิมและทำสัญญาสินเชื่อใหม่ สัญญาเดิมจะถูกยกเลิกและไม่มีผลบังคับใช้อีกต่อไป | สัญญาเดิมยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป เพียงแต่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเท่านั้น |
|
อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าธรรมเนียมการโอนสินทรัพย์ ค่าประเมินราคา และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมใหม่ | มักจะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าหรือไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นเพียงการเจรจาปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยภายใต้สัญญาเดิม |
|
อาจส่งผลกระทบต่อคะแนนเครดิตในระยะสั้น เนื่องจากการสมัครสินเชื่อใหม่จะถูกบันทึกไว้ในประวัติเครดิต | มีผลกระทบต่อคะแนนเครดิตน้อยกว่า เนื่องจากไม่ได้มีการสมัครสินเชื่อใหม่หรือเปิดบัญชีใหม่ |
การขอลดอัตราดอกเบี้ยบ้าน หรือ รีเทนชั่น (Retention) เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีสินเชื่อบ้านในปัจจุบัน ด้วยเหตุผลหลักดังต่อไปนี้
8 ขั้นตอนในการรีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance) ขอลดดอกเบี้ยบ้าน
เมื่อเข้าใจความหมายและวัตถุประสงค์ของทั้งสองคำแล้ว ถึงเวลาที่มนุษย์เงินเดือนมาค้นหาคำตอบความคุ้มค่าของวิธีการยื่นเรื่องกับธนาคารเพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในเรทต่ำ ดังตัวอย่าง
นายแสนกู้เงินซื้อบ้านโครงการสิริ เพลส ราชพฤกษ์-นครอินทร์ ราคา 4 ล้านบาท โดยยื่นกู้กับธนาคาร โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยปีละ 4.52% ผ่อนเดือนละ 20,315 บาท และตัดสินใจทำการ Retention ดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารเดิมจะได้อัตราดอกเบี้ยลดลงเหลือปีละ 4.00% ทำให้มียอดผ่อนลดลงเหลือเดือนละ 19,097 บาท ทำให้ประหยัดไป 1,218 บาท/เดือน
นางสิริกู้เงินซื้อบ้านโครงการอณาสิริ ติวานนท์-ศรีสมาน ในราคา 5.59 ล้านบาท โดยยื่นกู้กับธนาคารเดิม โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยปีละ 4.52% ผ่อนเดือนละ 28,390 บาท และตัดสินใจทำการ Refinance กับธนาคารใหม่จะได้อัตราดอกเบี้ยลดลงเหลือปีละ 3.66% ทำให้มียอดผ่อนลดลงเหลือเดือนละ 25,603 บาท ทำให้ประหยัดไป 2,787 บาท/เดือน
จากตัวอย่างข้างต้น ทำให้เห็นว่าวิธีการขออัตราดอกเบี้ยบ้านในเรทต่ำกับธนาคารด้วยการ Refinance นั้นทำให้มีเงินประหยัดต่อเดือน และคุ้มค่ามากกว่าการ Retention ดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารเดิม
รีเทนชั่น Retention | รีไฟแนนซ์ Refinance |
---|---|
ข้อดี
|
ข้อดี
|
ข้อเสีย ได้ลดอัตราดอกเบี้ยไม่เยอะ โดยอัตราดอกเบี้ยจะเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด |
ข้อเสีย
|
รีไฟแนนซ์กับรีเทนชั่นล้วนเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังผ่อนบ้านและต้องการปรับปรุงเงื่อนไขการผ่อนชำระหนี้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเงินของตนเองมากขึ้น โดยการรีไฟแนนซ์ เหมาะกับผู้กู้ที่ต้องการให้เงินงวดผ่อนชำระต่ำลง ในขณะที่การขอลดดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารเดิม หรือ ที่เรียกว่าการรีเทนชั่นนั้น เหมาะสำหรับผู้กู้ที่มีประวัติการชำระหนี้ดี มีรายได้มั่นคง และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับธนาคาร ซึ่งเปิดโอกาสให้เจรจาและขอปรับเงื่อนไขได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและเวลาในการดำเนินการมากเท่ารีไฟแนนซ์
ทั้งนี้การเลือกรีไฟแนนซ์หรือรีเทนชั่น ควรประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และเลือกวิธีที่เหมาะสมกับความต้องการ สถานการณ์ และเงื่อนไขส่วนตัวของผู้ขอกู้จะดีที่สุด
ถ้าหากผู้กู้มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ไม่เคยชำระล่าช้า ตามปกติแล้วธนาคารอาจพิจารณาให้สามารถทำการรีเทนชั่นได้ทุก 3 ปี โดยต้องเข้าไปติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินตามขั้นตอนที่กล่าวไปข้างต้น แต่หากว่าวงเงินเหลือต่ำกว่า 1,000,000 บาท ในบางกรณีอาจจะขอรีเทนชั่นไม่ได้ แนะนำให้ติดต่อสอบถามเงื่อนไขกับธนาคารเพิ่มเติม
ได้ แต่ในกรณีที่เรารีไฟแนนซ์บ้านโดยยังไม่ครบกำหนด 3 ปี จะมีค่าปรับประมาณ 3% ของวงเงินกู้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร ดังนั้นผู้กู้จึงไม่ควรรีบรีไฟแนนซ์ก่อน 3 ปี
การขอรีเทนชั่นกับธนาคารเดิมจะใช้ระยะเวลาประมาณ 7 วันทำการ
การขอลดดอกเบี้ยบ้านธนาคารเดิม หรือ Retention จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 1-2% ของวงเงินกู้ที่เหลืออยู่ หรือตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
การรีไฟแนนซ์บ้านจะมีค่าใช้จ่ายหลักๆ อยู่ 3 รายการ ได้แก่
อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ (Refinance) บ้าน คอนโด 2567 ที่ไหนดี | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
15 ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน ช่วยดูดสารพิษ สร้างอากาศบริสุทธิ์ | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
ย้ายเข้าบ้านใหม่วันไหนดี ต้องทำอะไรบ้าง ตามวันเกิด ปี 2567 | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
ค่าโอนบ้านพร้อมที่ดิน คอนโด ทาวน์โฮม จ่ายเท่าไหร่ คำนวณยังไง | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
ซื้อบ้านราคา 8-10 ล้าน ต้องผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ถึงจะพอ | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ บ้าน คอนโด (Refinance) ปี 2567 ธนาคารไหนดี เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารชั้นนำ และเครื่องมือคำนวณเงินกู้เบื้องต้น
ซื้อบ้านราคา 8-10 ล้านผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ดีถึงจะไม่ต้องกังวล ปัญหานี้จะหมดไป เมื่อได้ความรู้เรื่องการกู้ซื้อบ้านจากแสนสิริ
อัตราดอกเบี้ยบ้าน อัปเดตประจำปี 2567 จากธนาคารชั้นนำ พร้อมสาระความรู้เกี่ยวกับดอกเบี้ยบ้าน และเครื่องมือคำนวณเงินกู้เบื้องต้น
ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ บ้าน คอนโด (Refinance) ปี 2567 ธนาคารไหนดี เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารชั้นนำ และเครื่องมือคำนวณเงินกู้เบื้องต้น
ซื้อบ้านราคา 8-10 ล้านผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ดีถึงจะไม่ต้องกังวล ปัญหานี้จะหมดไป เมื่อได้ความรู้เรื่องการกู้ซื้อบ้านจากแสนสิริ
อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ (Refinance) บ้าน คอนโด 2567 ที่ไหนดี | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
15 ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน ช่วยดูดสารพิษ สร้างอากาศบริสุทธิ์ | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
ย้ายเข้าบ้านใหม่วันไหนดี ต้องทำอะไรบ้าง ตามวันเกิด ปี 2567 | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
ค่าโอนบ้านพร้อมที่ดิน คอนโด ทาวน์โฮม จ่ายเท่าไหร่ คำนวณยังไง | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >
ซื้อบ้านราคา 8-10 ล้าน ต้องผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ถึงจะพอ | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >