โดย อารยา ศิริพยัคฆ์
อัปเดต :  11/06/2024
ศึกษากฎหมายอสังหาริมทรัพย์ควรรู้ และหนังสือสัญญาซื้อขายบ้าน-คอนโด

ใครที่เป็นนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ นอกจากจะมีความรู้เรื่องการลงทุน รู้จักวิเคราะห์ คาดการผลกำไรในอนาคตให้ได้แล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่นักลงทุนต้องมีความรู้ประกอบควบคู่กันไปด้วย นั่นก็คือเรื่องของ “กฎหมายอสังหาริมทรัพย์” ที่เป็นเหมือนข้อบังคับให้การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เป็นไปอย่างถูกต้อง ซึ่งนักลงทุนทุกคนที่ต้องการเริ่มต้นลงทุนอสังหาฯ จะต้องศึกษาและรับทราบไว้ โดยหัวข้อหลักๆ ที่จะต้องรู้จะมีตั้งแต่ นิติกรรมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ การทำหนังสือสัญญาซื้อขายบ้าน ค่าธรรมเนียมและภาษี ตลอดจนการปล่อยเช่าที่เพิ่งมีการแก้กฎหมายใหม่ไป


กฎหมายอสังหาฯ ที่เกี่ยวข้องกับนิติกรรมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

นิติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกทางด้านกฎหมายที่นักลงทุนจำเป็นต้องรู้ เพราะเมื่อเกิดการซื้อขาย เปลี่ยนมืออสังหาริมทรัพย์ จะมีทั้งเรื่องการทำหนังสือสัญญาซื้อขายบ้านและคอนโด การจดทะเบียน เอกสารสิทธิ์ การโอน โดยในเรื่องของนิติกรรม สิ่งที่นักลงทุนควรรู้ คือ


การทำหนังสือสัญญาซื้อขายบ้านและคอนโด

การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์จะต้องมีการเปลี่ยนมือการครอบครองบ่อยครั้ง และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการทำหนังสือสัญญาซื้อขายบ้านและคอนโด ส่วนประกอบสำคัญที่เป็นเครื่องยืนยันการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสัญญาจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฉบับ คือ

  1. สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดหรือสัญญาซื้อขายที่จะใช้ในการจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่


    เป็นสัญญาที่กฎหมายบังคับให้ต้องมี และนำไปจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่พนักงาน โดยผู้ที่กำลังทำการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นโครงการคอนโดใกล้รถไฟฟ้าเพื่อลงทุน หรือทาวน์โฮม บ้านเดี๋ยวโครงการใหม่ แต่ถ้าหากไม่พบว่ามีการทำสองขั้นตอนตามที่กล่าวมา ทางกฎหมายจะถือว่าการซื้อขายเป็นโมฆะ
  2. สัญญาจะซื้อจะขาย


    สัญญานี้กฎหมายไม่ได้บังคับว่าจะต้องทำ แต่เพื่อเป็นการแสดงเจตนาว่าจะมีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นจริงในอนาคต ดังตัวอย่าง นายแสน ซื้อ โครงการทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง Demi สาธุ49 โดยผู้ขายได้ทำหนังสือสัญญาซื้อขายบ้านฉบับนี้ขึ้นมา เพื่อให้ผู้ซื้อวางเงินมัดจำก่อนและภายหลังจึงจะสามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมายได้ หากมีการโกงเงินมัดจำหรือมีการผิดสัญญาที่ผู้ซื้อผู้ขายตกลงกันไว้ เป็นต้น


กฎหมายอสังหาฯ ที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

หากถามว่าทำไมนักลงทุนต้องรู้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่กฎหมายได้กำหนดไว้ด้วยเมื่อเกิดการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ต้องบอกเลยว่าค่าใช้จ่ายเหล่านี้มีผลต่อการตั้งราคาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ให้ได้กำไร เพราะส่วนต่างการจ่ายค่อนข้างเยอะ โดยส่วนใหญ่จะใช้ราคาประเมินจากกรมธนารักษ์เป็นตัวกำหนดราคาในการเสียค่าธรรมเนียมการโอนบ้าน คอนโดฯ และภาษี โดยประกอบด้วยกัน 4 รายการ คือ

  1. ค่าธรรมเนียม


    กฎหมายอสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมกำหนดว่าทุกครั้งที่มีการจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์จะต้องมีการจ่ายค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ 2% จากราคาประเมิน ไม่มีข้อยกเว้น โดยทั่วไปผู้ขายและผู้ซื้อมักจะแบ่งชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าวที่อัตราร้อยละ 1% แต่ทั้งนี้ก็มีบางโครงการที่จัดข้อเสนอพิเศษ ด้วยการไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 


  2. ค่าอากร

    ค่าอากรแสตมป์ผู้ขายจำเป็นต้องชำระแต่เพียงผู้เดียวในอัตรา 0.5% จากราคาประเมินหรือราคาตลาด ขึ้นอยู่กับว่าราคาใดสูงกว่า ซึ่งจะได้รับการยกเว้นก็ต่อเมื่อการซื้อขายสังหาริมทรัพย์มีการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะที่จะมีรายละเอียดในข้อถัดไป

  3. ภาษีธุรกิจเฉพาะ

    ผู้ขายที่ครอบครองอสังหาริมทรัพย์เป็นระยะเวลาน้อยกว่า 5 ปีหรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านนานกว่า 1 ปี จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ในอัตราร้อยละ 3.3 จากราคาประเมินหรือราคาตลาดขึ้นอยู่กับว่าราคาใดสูงกว่า ทั้งนี้จะได้รับการยกเว้นหากอสังหาริมทรัพย์ที่ทำการซื้อขายได้มาจากการรับมรดก

  4. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

    เมื่อผู้ขายมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ จึงจำเป็นที่จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หัก ณ ที่จ่ายตามที่กฎหมายกำหนด ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ผู้ขายจึงต้องเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด โดยพิจารณาจากจำนวนปีที่ถือครอง เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมไปจนถึง 31 ธันวาคม หากมีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ภายในปีเดียวกัน นับเป็นการถือครอง 1 ปี


ระยะเวลาถือครอง 1 ปี 2 ปี 3 ปี 4 ปี 5 ปี 6 ปี 7 ปี 8 ปีขึ้นไป
เงินได้
ที่นำมาคำนวนภาษี
8% 16% 23% 29% 35% 40% 45% 50%


ตัวอย่าง สามารถคำนวณได้จากการนำราคาประเมินมาคูณกับอัตราภาษีร้อยละการถือครองที่กฎหมายกำหนด และนำผลลัพธ์ที่ได้มาหารด้วยจำนวนปีที่ถือครองจะได้จำนวนค่าใช้จ่ายที่ต้องนำไปเสียภาษีในปีต่อไป


กฎหมายอสังหาริมทรัพย์ ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยเช่า

กฎหมายข้อนี้เป็นเรื่องที่ต้องรู้เพราะเกี่ยวข้องกับนักลงทุนโดยตรง ซึ่งในปัจจุบันทางภาครัฐก็ค่อนข้างจะเข้มงวดกับการปล่อยเช่า และเมื่อกลางปี 2561 ก็ได้มีการเริ่มใช้กฎหมายใหม่ ดังนั้นกฎหมายข้อนี้จึงเป็นเรื่องที่นักลงทุนพลาดไม่ได้เลย โดยทั้งนี้จะขอกล่าวส่วนหลักๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับนักลงทุนที่อยากปล่อยเช่าอสังหาฯ ด้วยตัวเอง 2 ส่วนด้วยกันคือ

  1. กฎหมายใหม่ว่าด้วยการปล่อยเช่าและเก็บค่าเช่าอาคารที่อยู่อาศัย


    ซึ่งนอกจากการปล่อยอาคารชุดให้เช่ารายวันไม่ได้แล้ว ยังประกอบไปด้วยเนื้อหาหลักๆ ที่นักลงทุนควรรู้ คือ
    • ห้ามไม่ให้มีการเก็บค่าเช่า ล่วงหน้าเกินจำนวน 1 เดือนพร้อมรับเงินประกัน ซึ่งทางผู้เช่าสามารถที่จะยกเลิกสัญญาได้ โดยจะต้องมีการบอกล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 30 วัน
    • อัตราค่าไฟและค่าน้ำ ค่าโทรศัพท์และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ผู้ให้เช่าต้องส่งใบแจ้งหนี้และรายละเอียดต่างๆ ให้กับผู้เช่าล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 7 วัน ก่อนถึงกำหนดชำระ
    • เมื่อสัญญาการเช่าสิ้นสุดหรือมีการแจ้งยกเลิกสัญญาตามกำหนดที่ถูกต้อง ทางผู้ให้เช่าจะต้องคืนเงินค่าประกันให้กับทางผู้เช่าทันที ยกเว้นจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหลังจากตรวจสอบความเสียหายภายในที่อยู่อาศัย
    • ผู้เช่าสามารถยกเลิกสัญญาการเช่าได้ตลอดเวลา แต่ต้องแจ้งล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 30 วัน โดยผู้เช่าจะต้องไม่ค้างชำระค่าเช่า หรือไม่ผิดนัดการจ่ายค่าเช่า
  2. กฎหมายควบคุมการปล่อยเช่าคนต่างชาติ


    ข้อนี้กฎหมายอสังหาริมทรัพย์ไทยไม่ได้ห้ามใดๆ เกี่ยวกับการเช่า เพียงแต่ก่อนจะปล่อยเช่าผู้ให้เช่าต้องปฏิบัติข้อบังคับตามกฎหมาย ดังนี้
    • ผู้ให้เช่าหรือเจ้าของคอนโดฯ ต้องแจ้งข้อมูลชาวต่างชาติที่เข้าพักในห้องชุดของตนกับที่ทำการตรวจคนเข้าเมือง และผู้เช่าที่เป็นชาวต่างชาติจะต้องได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวในช่วงเวลาที่ย้ายเข้าพักอาศัยนั้นด้วย
    • ผู้ให้เช่าต้องแจ้งข้อมูลและยื่นเอกสารเกี่ยวกับชาวต่างชาติที่เช่าห้องชุดให้เจ้าหน้าที่นิติบุคคลเก็บไว้เป็นหลักฐาน ประกอบไปด้วยสำเนาบัตรประจำตัวหรือหนังสือเดินทาง สำเนาใบสำคัญแสดงถิ่นที่อยู่ของผู้เช่าพักอาศัยและบริวารในห้องชุด สำเนาใบรับการแจ้งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย นอกจากนี้ผู้เช่าต่างชาติไม่สามารถเข้าพักได้เกิน 3 คนต่อ 1 ห้องชุด


จากที่กล่าวมาทั้ง 3 ข้อหลัก ถือเป็นกฎหมายอสังหาริมทรัพย์พื้นฐานที่ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือนักลงทุนหน้าเก่าจำเป็นจะต้องรู้ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือกระบวนการ ซื้อ ขาย เช่า ที่ถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งยังสามารถป้องกันกลโกงที่จะเกิดขึ้นได้หลังการขายด้วย

เวอร์วัง อลังเซล ลดแรงส่งท้ายปี
Fur Fulfilled แต่งครบจัดให้ ถูกใจโฮ่งเหมียว

คู่มืออสังหาฯยอดนิยม

  1. อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ (Refinance) บ้าน คอนโด 2567 ที่ไหนดี | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. 15 ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน ช่วยดูดสารพิษ สร้างอากาศบริสุทธิ์ | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. ย้ายเข้าบ้านใหม่วันไหนดี ต้องทำอะไรบ้าง ตามวันเกิด ปี 2567 | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. ค่าโอนบ้านพร้อมที่ดิน คอนโด ทาวน์โฮม จ่ายเท่าไหร่ คำนวณยังไง | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. ซื้อบ้านราคา 8-10 ล้าน ต้องผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ถึงจะพอ | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


โครงการที่น่าสนใจ

เปิดจองออนไลน์
เอ็กซ์ที พญาไท

เอ็กซ์ที พญาไท

คอนโดใจกลางราชเทวี-พญาไท ใกล้รถไฟฟ้า BTS และแอร์พอร์ตลิงก์ พร้อมพื้นที่ส่วนกลางกว่า 4,500 ตร.ม.

เริ่มต้นที่ 4.99 ล้านบาท
เปิดจองออนไลน์
เดอะ มูฟ บางนา

เดอะ มูฟ บางนา

คอนโด บางนา ติดรถไฟฟ้าใกล้เซ็นทรัล บางนาเพียง 5 นาที เดินทางสะดวกด้วยทางด่วนและรถไฟฟ้าสถานีศรีเอี่ยม

เริ่มต้นที่ 1.29 ล้านบาท
เปิดจองออนไลน์
เดอะ เบส ไฮท์ - เชียงใหม่

เดอะ เบส ไฮท์ - เชียงใหม่

คอนโด เชียงใหม่ ตกแต่งสวยทั้งห้อง คอนโดสูงวิวดอยสุเทพ ใกล้เซ็นทรัลเพียง 3 นาที

เริ่มต้นที่ 2.49 ล้านบาท
เปิดจองออนไลน์
เดอะ ไลน์ ไวบ์

เดอะ ไลน์ ไวบ์

คอนโด ลาดพร้าว คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า พร้อมส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 9.7 ไร่* เพียง 300 ม. จาก BTS ห้าแยกลาดพร้าว ติดโลตัส ตรงข้ามเซ็นทรัลลาดพร้าว

เริ่มต้นที่ 3.89 ล้านบาท
โครงการพร้อมอยู่
เฮย์ หัวหิน

เฮย์ หัวหิน

คอนโด หัวหินติดทะเล สีสันใหม่ใจกลางหัวหิน บรรยากาศดีเหมือนอยู่ในรีสอร์ต ส่วนกลางครบครัน ผ่อนคุ้มกว่าเช่า

เริ่มต้นที่ 1.09 ล้านบาท
โครงการใหม่
เดอะ สแตนดาร์ด เรสซิเด้นซ์ หัวหิน

เดอะ สแตนดาร์ด เรสซิเด้นซ์ หัวหิน

คอนโด หัวหิน ใหม่จากแสนสิริและเครือโรงแรมดัง The Standard ด้วยดีไซน์ทันสมัยไม่เหมือนใคร ลงตัวทั้งการทำงาน การใช้ชีวิต และสังสรรค์

เริ่มต้นที่ 10.99 ล้านบาท
โครงการใหม่
เดอะ เบส บูกิต ภูเก็ต

เดอะ เบส บูกิต ภูเก็ต

คอนโด ภูเก็ต คอนโดต่างจังหวัดใจกลางเมืองภูเก็ต ทำเลดี เดินทางง่าย เพียง 550 ม. จากเซ็นทรัล

เริ่มต้นที่ 2.09 ล้านบาท

บทความที่เกี่ยวข้องกับ “เรื่องควรรู้ก่อนเริ่มลงทุน”

จำนองบ้าน จำนองที่ดินคืออะไร ต่างจากขายฝากอย่างไรบ้าง

หาคำตอบข้อแตกต่างระหว่างขายฝากและจำนอง พร้อมพบจุดเด่น จุดด้อยของนิติกรรมทั้ง 2 รูปแบบ เพื่อประโยชน์ในการเปลี่ยนที่ดินเป็นเงินก้อน

5 ประเภทลงทุนอสังหาฯ ที่นักลงทุนมือใหม่จำเป็นต้องรู้จัก

คว้าโอกาสรวยก่อนใคร แค่เข้าใจการลงทุนอสังหาฯ แต่ละประเภทไม่ว่าจะเป็นการปล่อยเช่า ลงทุนกองทุนรวมอสังหา และการเพิ่มมูลค่าบ้าน ฯลฯ

10 คำศัพท์ทางธุรกิจควรรู้ เมื่อคิดลงทุนอสังหาฯ

คิดจะลงทุนอสังหาฯ จำเป็นต้องรู้คำศัพท์ทางธุรกิจเหล่านี้! เพื่อเลือกวิธีการลงทุนที่เหมาะสมและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

จำนองบ้าน จำนองที่ดินคืออะไร ต่างจากขายฝากอย่างไรบ้าง

หาคำตอบข้อแตกต่างระหว่างขายฝากและจำนอง พร้อมพบจุดเด่น จุดด้อยของนิติกรรมทั้ง 2 รูปแบบ เพื่อประโยชน์ในการเปลี่ยนที่ดินเป็นเงินก้อน

5 ประเภทลงทุนอสังหาฯ ที่นักลงทุนมือใหม่จำเป็นต้องรู้จัก

คว้าโอกาสรวยก่อนใคร แค่เข้าใจการลงทุนอสังหาฯ แต่ละประเภทไม่ว่าจะเป็นการปล่อยเช่า ลงทุนกองทุนรวมอสังหา และการเพิ่มมูลค่าบ้าน ฯลฯ

ไม่พลาด ข่าวสารและบทความดีๆ

กรุณากรอกข้อมูลเพื่อรับข่าวสาร และข้อมูลสิทธิพิเศษจากแสนสิริก่อนใคร

ประเภทโครงการที่คุณสนใจ


เพื่อให้ท่านทราบวิธีและกระบวนการ ที่เราดำเนินการจัดเก็บข้อมูล วัตถุประสงค์การใช้ข้อมูล ​
ท่านสามารถศึกษารายละเอียด แบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ได้ที่นี่ คลิก

เวอร์วัง อลังเซล ลดแรงส่งท้ายปี
Fur Fulfilled แต่งครบจัดให้ ถูกใจโฮ่งเหมียว

คู่มืออสังหาฯยอดนิยม

  1. อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ (Refinance) บ้าน คอนโด 2567 ที่ไหนดี | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. 15 ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน ช่วยดูดสารพิษ สร้างอากาศบริสุทธิ์ | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. ย้ายเข้าบ้านใหม่วันไหนดี ต้องทำอะไรบ้าง ตามวันเกิด ปี 2567 | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. ค่าโอนบ้านพร้อมที่ดิน คอนโด ทาวน์โฮม จ่ายเท่าไหร่ คำนวณยังไง | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >


  1. ซื้อบ้านราคา 8-10 ล้าน ต้องผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ถึงจะพอ | แสนสิริ อ่านเพิ่มเติม >