และทยอยรับค่าตอบแทนตามผลการดำเนินงานต่อจากนี้
พร้อมเดินหน้าธุรกิจ Hospitality สร้างโอกาสการเติบโตในอนาคต
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนําของประเทศไทย ประสบความสำเร็จ ปิดดีลการขายแบรนด์ Standard International (สเตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล) ให้กับ Hyatt (ไฮแอท) ผู้ประกอบการโรงแรมระดับโลก และแสนสิริยังคงเดินหน้าธุรกิจ Hospitality เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโต
“แสนสิริ ขอแสดงความยินดีกับ Hyatt ประสบความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการแบรนด์และบริษัทในเครือส่วนใหญ่ของ Standard International และมั่นใจว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยและระดับโลก ส่งผลที่ดีต่อผู้บริโภค รวมถึงแสนสิริ เนื่องจาก Hyatt มีโครงสร้างพื้นฐานที่เข้มแข็งทั่วโลก โดยเฉพาะโปรแกรมสมาชิก World of Hyatt ที่ประกอบไปด้วยสิทธิพิเศษและข้อเสนอมากมาย จะเป็นส่วนสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งให้แก่พร็อพเพอร์ตี้ของแสนสิริ ประกอบไปด้วย The Standard, Hua Hin (เดอะ สเตนดาร์ด หัวหิน) The Standard Residences, Hua Hin (เดอะ สเตนดาร์ด เรสซิเดนซ์ หัวหิน) The Peri Hotel, Hua Hin (เดอะ เภรี โฮเต็ลหัวหิน) The Peri Hotel, Khao Yai (เดอะ เภรี โฮเต็ล เขาใหญ่) และ The Manner (เดอะแมนเนอร์) โรงแรมระดับลักช์ชัวร์รี่ที่เปิดตัวในย่านโซโหของเมืองนิวยอร์กเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งทุกโลเคชั่นล้วนแล้วแต่เป็นเดสติเนชันนของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
ที่สำคัญ แสนสิริยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจ Hospitality และมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ในอนาคต เนื่องจากธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลกกลับมาขยายตัวอีกครั้ง จากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ส่งผลให้แนวโน้มความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวเริ่มฟื้นกลับ ถือเป็นเวลาที่เหมาะสม มีโมเมนตัมเชิงบวกต่อภาพรวมของธุรกิจ”
สำหรับดีลดังกล่าว แสนสิริได้รับค่าตอบแทนเริ่มแรก (Upfront) จำนวนเงิน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในส่วนเพิ่มเติมจากการทำธุรกิจร่วมกัน (Earnout) จะได้รับอีกสูงสุดไม่เกิน 185 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับโรงแรมและโครงการที่พักอาศัยแห่งใหม่เกิดขึ้นภายใต้การบริหารโดย Hyatt
ล่าสุด แสนสิริ ประกาศ ยอดขาย ยอดโอน งวด 9 เดือน (สิ้นสุด 30 กันยายน 2567) พบว่า สามารถทำยอดขายได้ 37,000 ล้านบาท (คิดเป็น 71% จากเป้าทั้งปีที่ 52,000 ล้านบาท) ด้านยอดโอนอยู่ที่ 31,000 ล้านบาท (คิดเป็น 72% จากเป้าที่ 43,000 ล้านบาท) สำหรับช่วงที่เหลือของปีในไตรมาส 4 นี้ แสนสิริมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่มากถึง 13 โครงการ มูลค่ารวม 22,000 ล้านบาท
ด้านนักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี คงคำแนะนำ ‘Buy’ โดยให้น้ำหนักในไตรมาส 4 เนื่องจากมีโครงการ flagship ที่น่าสนใจ ในขณะที่แผนธุรกิจในครึ่งปีหลังยังคง aggressive กว่าบริษัทอื่นในกลุ่มฯ เป็นโอกาสของupside ต่อประมาณการกำไรสุทธิในปี 2567 โดยจุดเด่นของ SIRI ยังมาจากฐานลูกค้าไฮเอนต์ในกลุ่ม
low-rise ที่มีกำลังซื้อดีกว่ากลุ่มอื่น
Note to Editor
จากข้อมูลของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ระบุว่าธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในช่วงปี 2567-2569 และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อน COVID-19 (38-40 ล้านคน) ได้ในปี 2568 เนื่องจากประเทศไทยนับเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของโลก และมีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวไทยคาดว่าน่าจะมีโอกาสถึงระดับ 200 ล้านทริปได้ในปี 2568 โดยการลงทุนมีทิศทางขยายตัวสู่จังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ และคาดว่าอัตราเข้าพักทั่วประเทศมีแนวโน้มจะสูงกว่า 70% ในปี 2567