นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ
หรือ Perpetual Bond ต่อผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) พร้อมอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ระดับ
Investment Grade ที่ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” และของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ที่ระดับ “BBB-”
โดยทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่
6 กุมภาพันธ์ 2568
การเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ครั้งนี้ สอดคล้องกับการวางแผนด้านการเงินเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
เสริมสร้างความยืดหยุ่นของโครงสร้างเงินทุน และ
เพื่อทดแทนหุ้นกู้ด้อยสิทธิมีลักษณะคล้ายทุนฯ ชุดเดิม ที่บริษัทมีแผนจะใช้สิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนด
นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกการลงทุนและสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป
ซึ่งคาดว่าอัตราดอกเบี้ยช่วง 5
ปีแรกอยู่ระหว่าง [7.00 – 7.50]
% ต่อปี ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง และคาดว่าจะเปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่
20, 23 - 25
มิถุนายน 2568 สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปสามารถจองซื้อขั้นต่ำ
100,000
บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000
บาท
ล่าสุด แสนสิริ ประกาศแผนธุรกิจปี 2568 วางแผนเปิดตัว 29 โครงการใหม่ มูลค่า 52,000 ล้านบาท (แนวราบ 14 โครงการ และคอนโดมิเนียม 15 โครงการ) ตั้งเป้าหมายยอดขาย 53,000 ล้านบาท เป้าหมายยอดโอน 46,000 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ขยายการพัฒนาที่อยู่อาศัยในกลุ่มสินค้าระดับลักซ์ชัวรีและพรีเมี่ยมในทำเลใหม่ที่มีศักยภาพสูง
เร่งเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ในกรุงเทพฯ เพิ่ม Backlog สนับสนุนการสร้างรายได้ระยะยาว รุกต่อ Strategic Locations ขยายการพัฒนาโครงการไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ภูเก็ต พัทยา และขอนแก่น ขยายโอกาสในการลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ เพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน โดยปีนี้จะมีโครงการ Joint Venture ใหม่ 7 โครงการ มูลค่า 19,500 ล้านบาท
ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
ปี 2567 ที่ผ่านมา แสนสิริสร้างผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ด้วยยอดขายและยอดโอน (รวมโครงการร่วมทุน) อยู่ที่ 50,000
ล้านบาท และ 43,700
ล้านบาท ตามลำดับ สามารถ
Sold Out ได้ถึง 25 โครงการ มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท ด้านผลประกอบการ
งวด 9 เดือนของปี
2567 มีรายได้รวมสูงสุดในกลุ่มกว่า
29,000 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า
4,000 ล้านบา
ท
จากแผนธุรกิจและผลการดำเนินงานข้างต้น คาดว่าจะส่งผลให้การออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของบริษัทในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้ โดยนักลงทุนสามารถจองซื้อผ่าน
9 สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร บริษัทหลักทรัพย์
เอเซีย พลัส และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า
นักลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ สามารถศึกษารายละเอียดและขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่
www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้ ได้แก่