ดอกเบี้ยนโยบาย 2.25% แล้วคนซื้อบ้านได้ประโยชน์อะไร

• ดอกเบี้ยนโยบาย (Policy Rate) คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางกำหนดขึ้นเป็นดอกเบี้ยอ้างอิง

• อัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้น เป็นผลจากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง

• ดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้กู้ต้องแบกภาระมากกว่าเดิมประมาณ 10%

สืบเนื่องจากเศรษฐกิจไทยในปี 2567 ชะลอตัวลง ทั้งจากการส่งออกและการผลิต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมีการประเมินจากองค์ประกอบหลายปัจจัยแล้วว่าภาพรวมเศรษฐกิจอยู่ในทิศทางฟื้นตัวจากปัจจัยหนุนด้านการบริโภคภาคเอกชน  ส่งผลให้การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ครั้งที่ 1 ในปี 2567 นี้ จึงมีเสียงข้างมากให้คงอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.50% ต่อปี ถือว่าเป็นการปรับดอกเบี้ยนโยบายระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี หลังจากที่ได้ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันถึง 8 ครั้ง และเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 2.50% เป็น 2.25% ต่อปี แน่นอนว่าจะช่วยบรรเทาภาระหนี้ให้กับประชาชน ประกอบกับในด้านเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ 2.7 และ 2.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยแรงขับเคลื่อนสำคัญของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการส่งออกปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ดอกเบี้ยสินเชื่อ ของธนาคารพาณิชย์ย่อมปรับตัวตามด้วยเช่นกัน เหตุนี้คนที่กำลังวางแผนซื้อบ้านอาจจะตั้งคำถามเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงของดอกเบี้ยนโยบาย พร้อมกับหาคำตอบว่าดอกเบี้ยนโยบายคืออะไร ผลกระทบจะเป็นอย่างไร และท้ายสุดต่อไปนี้คนซื้อบ้านจะได้รับอัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่

ดอกเบี้ยนโยบายคืออะไร?

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับคำว่า “ดอกเบี้ยนโยบาย” หรือ Policy Rate นั้นหมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางของแต่ละประเทศกำหนดขึ้นเพื่อใช้เป็นดอกเบี้ยอ้างอิง และดอกเบี้ยนโยบายนี้ยังเปรียบเสมือนเครื่องมือหลักในการส่งสัญญาณนโยบายการเงิน ซึ่งสำหรับประเทศไทยจะมีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จากธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงค์ชาติ) เป็นผู้กำกับดูแลดอกเบี้ยนโยบายให้อยู่ภายใต้กรอบของเงินเฟ้อไม่ให้เกิน 3% โดยสามารถทำได้ 3 กรณีคือ

1. เพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย = สัญญาณบอกเศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น
2. ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย = สัญญาณบอกเศรษฐกิจอยู่ในช่วงซบเซา
3. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย = สัญญาณบอกเศรษฐกิจกำลังอยู่ในภาวะน่าพอใจ หรือไม่จำเป็นต้องกระตุ้นด้วยการเพิ่มหรือลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ลดดอกเบี้ยนโยบาย ลงที่ 2.25% ต่อปี

หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 2.25% ต่อปี และมีผลให้บังคับใช้ทันที เรียกว่าเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี เป็นผลมาจากทางคณะกรรมการฯ ประเมินว่า เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ 2.7 และ 2.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยแรงขับเคลื่อนสำคัญของภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการส่งออกปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระหนี้โดยไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ภายใต้บริบทที่สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงอยู่ในระดับที่ยังเป็นกลางและสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ

หมดความกังวลเรื่องผ่อนบ้าน เมื่อได้คำนวณเงินกู้

ลดดอกเบี้ยนโยบายเป็น 2.25% คนซื้อบ้านได้อะไร

แน่นอนว่าเมื่อมีประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายในรอบปี นอกจากจะช่วยลดภาระหนี้ในครัวเรือนของประชาชนแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้คนซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้นในช่วงโค้งสุดท้าย ไตรมาส 4 ของปี 2567 ทั้งนี้คาดการณ์ว่าจะช่วยเพิ่มดีมานประมาณ 2% ส่งผลต่อการเติบโตของวงการอสังหาฯ ประกอบกัยช่วยทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ทำให้ต่างชาติโอนมากขึ้น ขณะที่คนซื้อบ้านคนไทยก็มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นตาม

อัพเดทดอกเบี้ยสินเชื่อ จาก 5 ธนาคารพาณิชย์ ประจำวันที่ 16 ตุลาคม 2567

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย

ทำความเข้าใจ MLR MRR และ MOR คืออะไร ได้ที่นี่

ดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้น ดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยปรับตัวตาม แม้จะได้รับผลกระทบ แต่ก็มีผู้กู้ซื้อบ้านบางกลุ่ม ที่ยังคงได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ ดังนั้นหากใครที่กำลังอยากซื้อบ้าน แนะนำให้รีบซื้อ แถมได้ข้อเสนอพิเศษ สามารถเข้าไปเลือกชมโครงการบ้านและทาวน์โฮมจากแสนสิริได้ที่นี่